ประธานเจ้าหน้าที่เยี่ยมชม autotirechecking ครับ คุณรู้จัก “แคตไฟฟ้า” ไม่ว่าในภาวะโลกร้อนอย่างรุนแรงแบบเทคโนโลยีที่เรามักจะนับร้อยปีในซีรีส์สันดาปหรือเป็นระบบ 'น้ำมัน' ดูที่ระบบควบคุมทั่วทั้งองค์กรเชิงกลยุทธ์และที่สำคัญ 'ความความต่อสิ่งแวดล้อม' เสียแล้ว แม้กระทั่งการใช้รถขนส่งขนาด 1 ตัน (กระบะดีเซล) มากในยังคงหนีกระแสสำรวจไม่พบว่าเราพร้อมไหมจริงที่จะเปิดยุค 'รถไฟฟ้า' ทั้งหมดปัจจุบันปัจจุบันตัวหรือครึ่งตัวหรือทางส่วนใหญ่ของประเทศประเทศไทยอย่าง 'คุณดาว' อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้เราติดตามรุ่นน้องฟอสซิลไปยาวๆ วันนี้ที่ autotirechecking ของเราวิเคราะห์จับกระแสกัน
[ ตอนที่ 1: สุขภาพสิ่งแวดล้อม 'สะกิด' ผู้ผลิต]
'มาตรการสิ่งแวดล้อม' ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ในยุคปัจจุบัน 2020 อย่างที่เราเห็นหลายประเทศ 'แบน' ดีเซลที่ไม่รู้จักเครื่องกรอง (DPF) ไม่ให้เข้าเมืองเพราะฝุ่นควัน PM 2.5 'แบน' การนำเข้าน้ำมันปาล์มส่วนผสมไบโอดีเซลไม่รู้จักการผลิตที่ยั่งยืนแบนไปแบนมาแบนรับรองดีเซลทั้งหมด...
…แล้ว VW/Audi แพลนมๆ จะออกรถ+เครื่องดีเซลรุ่นกลางปีเฉ๊ยยยไปคุยกันให้จบก่อนดีหรือเปล่าครับเพ่
เนื่องจากมึนงงๆ จะต้องเชื่อหากไม่นำหลักวิศวกรรมมาออกแบบให้ล้ำๆ ประสิทธิภาพที่โดดเด่นจะต้องเริ่มพึ่งเทคโนโลยีอื่นๆ เข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติม เช่น
- เทรนด์ Downsizing Turbo ลดความจุ+อุปกรณ์เสริมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบหลาย ๆ คนทั้งน้ำหนักรถยนต์ลดรับประทานน้ำมันก็ลดได้เพิ่มกำลังรอบต้น-เร่งแซงแกนเดิมหรือเพิ่มในหลาย ๆ ค่ายในไทยและติดใจผู้ใช้พื้นที่ๆ กัน เช่น 5 VTC Turbo ของ Honda Civic FC/FK เป็นต้น (รูป: Civic FK เว็บทางการ Honda) ขึ้นระบบแรกๆ แกนขาเรื่องโครงของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่รับกำลังอัดเพิ่มหรือเกียร์ ที่ต้องรับแรงยก-ทันตาเห็นทันทีที่ระบบควบคุมจะพิจารณาเป็นพิเศษ ต้มไขว่คว้าหาคำตอบกันต่อไป
- พัฒนาเครื่องยนต์ N/A สำหรับคนรักไคล้ RPM Lover แบบเดิมคือความลื่นไหลลื่นเช่นที่ Mazda ทำกับเครื่อง Skyactiv ซินในเจเนอเรชั่นปัจจุบันที่ฉีดตรง-กำลังอัดสูง (รูป: Mazda 3 Skyactive คนที่ปัจจุบันดูเว็บทางการของ Mazda) ให้ประโยชน์ได้อัตราความเสียหายและการพิจารณาคดีของเครื่องยนต์เจเนอเรชั่นก่อนหน้านี้กล่าวถึงประเด็นที่จะ 'ไปได้อีกไม่มาก' เป็นครั้งแรกทางเทคโนโลยีวัสดุศาสตร์ที่ทันสมัยก็เข้าสู่จุดเริ่มต้น Downsizing Turbo หรืออะไรก็ตามนั้น
เทคโนโลยีหนึ่งที่หลายค่ายพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (บ้างก็แอบถอดใจ) คือ 'แคตไฟฟ้า' หรือ รถยนต์ไฟฟ้า
จุดเด่นของมอเตอร์ไฟฟ้าที่มากกว่าเครื่องยนต์สันดาปทั่วไปนั้นคือสามารถให้กำลังสูงสุดได้ตามปกติทันทีตั้งแต่ออกตัวหรือพูดง่ายๆ “ไม่ต้องรอรอบ” อาจจะกดเป็นมาได้เต็มที่ตั้งแต่เริ่มตื้บ(คันเร่ง) ทุกคนเราเห็นรถยนต์ Tesla รุ่นทอปๆและ Insane Mode เหยียบออกตัวทีคนนั่งทิ้งหัวไว้ข้างหลังตรงครับ 0-100 กม./ชม. มีการพิจารณา 2 วินาทีธรรมดาบวกลบเกินความจำเป็นเครื่องยนต์ไปมากจนเป็นสาเหตุว่าต้องมีสาเหตุไฟหรือเก็บไฟฟ้าไว้ให้มอเตอร์ทำงาน เช่น แบตเตอรีซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องใช้ต้นทุนการพัฒนา-ผลิตและจำหน่ายแคตไฟฟ้าในประเทศ
ตรวจสอบที่มีระบบไฟฟ้าในการนี้อีกครั้ง แบ่งแยกย่อยได้อย่างสม่ำเสมอสำหรับ 'Full EV' โดยไม่จำเป็นต้องให้กำเนิดไฟพลังสูงเพื่อชาร์จ 'Hybrid EV' ที่เติมน้ำมันวิ่งแล้วเอามอเตอร์ไฟฟ้าที่ระบบชาร์จกลับ Regenerative ไม่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กมาตรวจสอบเพื่อสนับสนุนอัตราเร่งในกรณีระบบแปลกตานั่ง-แต่ไม่พิจารณาสำหรับรถไฟคือระบบ 'เดินเครื่องน้ำมัน-มอเตอร์ไฟฟ้า-ลากมาปั่นล้อ' นั่นคือ “e-Power” Nissan เป็นต้นไป
โครงสร้างเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าแดชบอร์ดรถยนต์เองนี้อาจจะกลายเป็นรูปแบบที่ผู้ผลิตสามารถสืบค้นรูปแบบที่คุ้มทุน-คุ้มค่า องค์ประกอบที่โดดเด่นแล้วผู้ควบคุมคือระบบควบคุมและผู้ใช้รถยนต์เองก็ต้อง “รู้เท่าทัน” เพื่อรองรับการรับมือเทคโนโลยีที่มีความสำคัญในการสำรวจอันอัน
จุดเริ่มต้นต่อไปทางทีมงาน autotirechecking เรื่องเล่าเล่าพื้นความเป็นมาของทิศทางอุตสาหกรรมและแนวทางของรัฐบาลที่เกื้อหนุนการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า-ไฟฟ้าผสม ในประเทศไทย ผู้ตรวจสอบได้ทราบกันอย่างถึงลูกถึงคนเพราะว่าปกติทั่วไปรถยนต์ต่อไปในบ้านอาจกลายเป็นรถไฟฟ้าได้อีกครั้งแล้วติดตามชมกันในสัปดาห์หน้านะครับ ?